ต้องรู้ก่อน ทําจมูกกินอะไรได้บ้าง

ไม่ว่าจะศัลยกรรมอะไรก็ตามแต่ แม้แต่ทำจมูก ย่อมมีบาดแผลเกิดขึ้นอยู่แล้ว หลังจากศัลยกรรมเราต้องมาดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้บาดแผลนั้นสกปรก และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจเสี่ยงให้บาดแผลฉีกขาด นอกจากนี้ก็ต้องมาดูแลเรื่องอาหารการกินด้วย เพราะอาหารบางอย่างเมื่อเรากินเข้าไปแล้วจะไปช่วยบำรุงร่างกายให้แผลหายเร็วขึ้น และยิ่งแผลหายเร็วเท่าไหร่โอกาสที่แผลจะติดเชื้อก็มีน้อยลงเท่านั้น หลายคนที่ทำจมูกมา อาจมีข้อสงสัยว่าหลังทำจมูกจะกินอะไรได้บ้างนั้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

1. ธาตุเหล็กและสังกะสี

ธาตุเหล็กและสังกะสี

ภาพจาก https://www.thaichildcare.com

แร่ธาตุช่วยกระตุ้นการสมานแผลได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยสังเคราะห์โปรตีนและคอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่และช่วยสมานแผลได้อีกด้วย ใครที่อยากฟื้นตัวเร็วต้องกินธาตุเหล็กและสังกะสีอย่างน้อยวันละ 15 มิลลิกรัมนะคะ ซึ่งอาหารที่มีธาตุเหล็กและสังกะสี ได้แก่ ปลา, ไข่, อาหารทะเล, ผักใบเขียว และถั่วเหลือง

2. โปรตีน

โปรตีน

ภาพจาก https://www.thaihealth.or.th

มีหลายคนเข้าใจผิดว่ากินอาหารประเภทเนื้อ, นม, ไข่ จะทำให้แผลหายช้า ซึ่งไม่จริงเลย เพราะสารอาหารประเภทโปรตีนมีประโยชน์ในการสร้างเนื้อเยื่อ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทั้งยังช่วยให้เซลล์ประสานตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ช่วยให้ผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่มีความแข็งแรง และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลติดเชื้อด้วย หลังจากที่ทำจมูกมาควรกินอาหารที่มีโปรตีนให้ได้อย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว ซึ่งอาหารที่มีโปรตีน ได้แก่ ไข่, เนื้อปลา, โยเกิร์ต, ธัญพืช และถั่วต่างๆ

3. ไขมันดี

ไขมันดี

ภาพจาก https://www.tescolotus.com

ไขมันดีนอกจากจะให้พลังงานสูงแล้ว ยังช่วยสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างและซ่อมแซมเยื่อหุ้มเซลล์ได้อีกด้วย แถมยังช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น สำหรับอาหารประเภทที่มีไขมันดีนั้น ได้แก่ น้ำมันมะกอก, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันถั่วลิสง, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันงา และอาหารจำพวกถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ถั่วลิสง เป็นต้น

4. วิตามินซี

วิตามินซี

ภาพจาก https://www.posttoday.com

วิตามินซีถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะนอกจากจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังเป็นสารที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้บาดแผลสมานตัวเร็วขึ้นและช่วยลดอาการบวม อักเสบ สำหรับการพักฟื้นนั้น ร่างกายควรได้รับวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 100 – 200 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีสามารถหาได้จากผักและผลไม้อย่าง ส้ม, ฝรั่ง, มะละกอ, กีวี่, บร็อกโคลี่ เป็นต้น

5. น้ำ

น้ำ

ภาพจาก https://www.thaihealth.or.th

น้ำไม่ใช่สารอาหาร แต่น้ำเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญต่อร่างกาย น้ำช่วยสมานแผล เมื่อร่างกายชุ่มชื่น เซลล์ผิวหนังก็จะเคลื่อนที่จากขอบแผลมาปิดคลุมบาดแผลได้ดี ซึ่งหากร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำก็จะยิ่งทำให้เซลล์ผิวหนังตายและเพิ่มความเจ็บปวดได้ ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้วันละ 8 – 10 แก้ว เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วค่ะ